หญ้าเทียม รหัสWG40 หนา 40MM 350฿
การจัดสรรงบประมาณในการติดตั้งหญ้าเทียม
ในการเลือกใช้วัสดุหญ้าเทียมปูพื้นผิววัสดุและงานตกแต่งต่าง ๆ นั้น งบประมาณหรือค่าใช้จ่ายถือว่ามีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อและดำเนินการติดตั้งเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามวัสดุชนิดนี้ถือว่าเป็นวัสดุที่มีราคาไม่แพง ทั้งยังดูแลรักษาได้ง่าย ทั้งยังสามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคารได้อีกด้วย จึงเป็นวัสดุสำหรับตกแต่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยราคาของวัสดุชนิดนี้อาจแบ่งได้ตามรูปร่างลักษณะ และขนาดของวัสดุดังนี้
1. รูปร่างลักษณะของหญ้าเทียม หลาย ๆ คนมักคิดกันเอาเองว่าวัสดุชนิดนี้จะมีให้เลือกเฉพาะสีเขียว และรูปร่างลักษณะที่เลียนแบบต้นหญ้าเท่านั้น ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ววัสดุชนิดนี้มีรูปร่างลักษณะที่หลากหลาย รวมถึงสีสันต่าง ๆ อีกด้วย เช่น วัสดุเทียมที่ดูเป็นทุ่งหญ้าแซมด้วยดอกไม้สีสันต่าง ๆ วัสดุเทียมรูปต้นไม้หรือใบไม้ที่มีลักษณะต่าง ๆ กัน เป็นต้น ซึ่งราคาของวัสดุที่เพิ่มลูกเล่นและสีสันเช่นนี้จะอยู่ประมาณ 30 – 60 บาท ต่อ 25x25 cm.
2. รูปแบบของวัสดุ นอกจากรูปแบบแผ่นที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปแล้ว วัสดุชนิดนี้ยังมีรูปลักษณะทรงกลมเพื่อทดแทนการจัดสวนด้วยต้นไม้ตามธรรมชาติ โดยราคาของวัสดุก็จะขึ้นกับเส้นผ่าศูนย์กลางของตัววัสดุเอง โดยราคาอาจจะเริ่มต้นตั้งแต่ 120 – 750 บาทต่อลูก ทั้งยังมีหลากหลายสีสันให้เลือกกันอีกด้วย หรือจะเป็นรูปแบบจำลองสวนสำเร็จรูปที่มีทั้งใบหญ้า ไม้ประดับชนิดต่าง ๆ ด้วยวัสดุจึงทำให้มีราคาค่อนข้างสูงเริ่มต้นที่ 3,500 บาทต่อชิ้น อีกด้วย
3. ขนาดของวัสดุหญ้าเทียม โดยทั่วไปวัสดุชนิดนี้จะแบ่งประเภทของขนาดเพื่อการจัดจำหน่ายอยู่ 2 แบบ คือ แบบเป็นชิ้น และแบบม้วนขึ้นกับพื้นที่ในการปูพื้นผิวของวัสดุชนิดนี้ โดยหากมีขนาดแผ่นอยู่ที่ 25x25 cm. ราคาจะอยู่ที่ 20 – 50 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพและเกรดของวัสดุ แต่หากเป็นแบบม้วนก็จะขึ้นกับขนาดของพื้นที่และคุณภาพของตัววัสดุ ซึ่งราคาโดยทั่วไปเริ่มต้นที่ 100 – 500 บาทต่อตารางเมตร
การเลือกใช้หญ้าเทียมให้ตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งาน นอกจากการคำนึงถึงขนาดของพื้นที่แล้ว จึงต้องคำนึงถึงรูปแบบการใช้งานด้วย เป็นการงานภายในหรือภายนอกอาคาร เป็นงานปูพื้นหรืองานปูฝาผนัง ทั้งยังต้องการให้มีรูปแบบหรือลูกเล่นอย่างไร เพราะปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมีผลต่อราคาของวัสดุชนิดนี้นั่นเอง
ความจำเป็นที่ต้องใช้หญ้าเทียมในปัจจุบัน
ปัจจุบันจำนวนประชากรมีมากขึ้นทุกปี บ้านและที่อยู่อาศัยขยายจากตัวเมืองออกไปทางรอบนอกมากขึ้น ทำให้ผู้อยู่อาศัยที่นิยมซื้อบ้านที่ตั้งอยู่รอบนอก ได้บ้านหรือที่พักอาศัยที่มีพื้นที่มากขึ้น จึงทำให้รอบบริเวณบ้านสามารถทำสนามหญ้าเพื่อไว้พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดสุดสัปดาห์
แต่เนื่องจากวิถีชีวิตของคนในปัจจุบันที่นิยมทำงานนอกบ้านทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทำให้แต่ละครอบครัวไม่ค่อยมีคนดูแลและทำความสะอาดบ้าน ในวันหยุดสุดสัปดาห์สมาชิกในครอบครัวก็ต้องการการพักผ่อน ดังนั้น สนามหญ้าเทียมจึงเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น และเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากไม่ต้องตัดหญ้า ไม่ต้องรดน้ำต้นไม้ ไม่ต้องมีขั้นตอนยุ่งยากในการดูแลรักษา ไม่เหมือนหญ้าจริงที่ต้องใช้เวลาในการดูแลรักษาค่อนข้างมาก เวลาที่เหลือจากการทำงานทำให้สามารถพักผ่อนได้จริง ๆ นี่เป็นตัวอย่างความจำเป็นของคนในยุคนี้ที่หันมาติดตั้งหญ้าเทียมกันมากขึ้น
นอกจากนี้ สถานที่ต่าง ๆ เช่น โรงเรียน คอนโดมิเนียม บ้านในเมือง ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านกาแฟก็นิยมนำหญ้าสังเคราะห์มาทำสนามเด็กเล่น สนามฟุตบอล ตกแต่งภายนอก ตกแต่งภายในเพื่อเพิ่มสีสัน ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ และสบายตากับผู้คนที่ได้พบเห็นด้วย นอกจากความสวยงามและความแข็งแรงทนทานของหญ้าสังเคราะห์แล้ว หญ้าสังเคราะห์ยังไม่ต้องการการดูแลรักษามาก สถานที่ที่นำหญ้าเทียมมาใช้งานไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการจ้างคนมาตัดหญ้า หรือบำรุงรักษาหญ้าให้สวยงาม เป็นการประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายอย่างแท้จริง
สำหรับค่าใช้จ่ายในการปูหญ้าสังเคราะห์ถือว่าค่อนข้างสูงหากเทียบกับการปูหญ้าธรรมชาติ แต่หากคำนวณกับค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ค่าใช้จ่ายในการจ้างคนและค่าเสียเวลาแล้ว ในระยะยาวการติดตั้งหญ้าสังเคราะห์ถือว่าราคาไม่แพง นอกจากนี้ ด้วยวัสดุที่ทำจากพลาสติกพิเศษผสมกับสารปกป้องแสงแดด ทำให้หญ้าเทียมมีสีสันสวยงาม สีไม่ซีดจางเร็วแม้จะเผชิญกับสภาวะแสงแดดจัดทุกวัน หรือสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สีของหญ้าสังเคราะห์ก็ยังคงสดใส มีความแข็งแรงทนทานและมีอายุการใช้งานนาน เรียกได้ว่าลงทุนครั้งเดียวคุ้มค่านานถึงเกือบ 10 ปีเลยทีเดียว
หญ้าเทียมและน้ำ กับคำถามที่ว่า ไปด้วยกันได้หรือไม่?
มีความสงสัยจากผู้ที่อยากลองใช้ หญ้าเทียม ในการปูพื้นสนามหญ้าหน้าบ้าน ทำสนามฟุตบอลหรือฟุตซอลกลางแจ้ง หรือติดตั้งเพื่อตกแต่งผนัง กำแพง หรือทำฉากต่าง ๆ นั้น ถ้าโดนน้ำจะเสื่อมสภาพเร็วหรือไม่ คำตอบจะเป็นเช่นไรไปดูกัน
หญ้าเทียมผลิตมาจาก โพลีเอทิลีน ซึ่งมีความปลอดภัยสูงและมีการผสมสาร UV Stabilizer เพื่อเพิ่มความคงทนต่อแสงแดด และมีสารป้องกันสีซีดจางจากแสงยูวี (UV resistant) โดย Polyethylene (PE) นั้น จะถูกนำมาทอยึดติดกับแผ่นรอง (Backing) และมีรูระบายน้ำอยู่ด้านหลัง โดยความสูงของใบหญ้า จะขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ในงานของหญ้าเทียมชนิดนั้น ๆ ดังนั้นเมื่อมีการโดนน้ำ พลาสติกนี้จะไม่มีการเปื่อยยุ่ยเหมือนหญ้าจริง ไม่มีการกักเก็บน้ำเนื่องจากมีรูระบาย ทำให้หญ้ากลับมามีสภาพเหมือนเดิมและมีสภาวะเหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเห็นได้ว่า การใช้หญ้าเทียมนั้นมีความคงทนต่อน้ำและสภาวะอากาศดีกว่าการใช้หญ้าจริง
หญ้าเทียมมีความต้องการการดูแลไม่มากมากเหมือนการปลูกหญ้าจริง โดยส่วนมากต้องการการดูและเพียงอาทิตย์ละครั้ง เพื่อดูความสกปรก หากมีคราบเปื้อนก็ฉีดน้ำเล็กน้อยก็สามารถใช้งานต่อได้ บางส่วนอาจมีการเพิ่ม Infill และแปรงหญ้าบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ไม่มีเวลาในการดูแลรักษาหญ้ามากนัก อีกทั้งยังได้พื้นที่สีเขียว เพิ่มความร่มรื่นแก่บ้านเรือนและอาคารที่อยู่อาศัยได้ทันที
อีกจุดเด่นที่น่าสนใจของการใช้หญ้าเทียมคือ อายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 6 ปี และหากมีการเลือกหรือลงทุนกับหญ้าเทียมที่มีคุณภาพสูงแล้วนั้น อาจมีอายุการใช้งานมากถึง 10 ปีเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถติดตั้งได้รวดเร็วและมีตัวเลือกให้ใช้งานได้หลากหลายทั้ง ปูพื้น ติดผนัง หรือทำสนามกีฬา
แต่เนื่องจากหญ้าเทียมนั้นถูกผลิตมาจากใยสังเคราะห์ อาจทำให้ไม่ได้รับความรู้สึกอ่อนนุ่มหรือให้ความเย็นเหมือนหญ้าจริงมากนัก แต่หากมองถึงปัจจัยโดยรวมแล้ว การเลือกใช้หญ้าเทียมก็ดูจะเหมาะสมกับประเทศไทย ที่มีสภาวะอากาศที่ร้อนชื้น เดี๋ยวฝน เดี๋ยวแดด ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นคงสามารถตอบโจทย์คนที่กำลังกังวลเกี่ยวกับคำถามที่ว่า “หญ้าเทียมทนน้ำได้ดีแค่ไหน” ได้เป็นอย่างดี
ในการเลือกใช้วัสดุหญ้าเทียมปูพื้นผิววัสดุและงานตกแต่งต่าง ๆ นั้น งบประมาณหรือค่าใช้จ่ายถือว่ามีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อและดำเนินการติดตั้งเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามวัสดุชนิดนี้ถือว่าเป็นวัสดุที่มีราคาไม่แพง ทั้งยังดูแลรักษาได้ง่าย ทั้งยังสามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคารได้อีกด้วย จึงเป็นวัสดุสำหรับตกแต่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยราคาของวัสดุชนิดนี้อาจแบ่งได้ตามรูปร่างลักษณะ และขนาดของวัสดุดังนี้
1. รูปร่างลักษณะของหญ้าเทียม หลาย ๆ คนมักคิดกันเอาเองว่าวัสดุชนิดนี้จะมีให้เลือกเฉพาะสีเขียว และรูปร่างลักษณะที่เลียนแบบต้นหญ้าเท่านั้น ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ววัสดุชนิดนี้มีรูปร่างลักษณะที่หลากหลาย รวมถึงสีสันต่าง ๆ อีกด้วย เช่น วัสดุเทียมที่ดูเป็นทุ่งหญ้าแซมด้วยดอกไม้สีสันต่าง ๆ วัสดุเทียมรูปต้นไม้หรือใบไม้ที่มีลักษณะต่าง ๆ กัน เป็นต้น ซึ่งราคาของวัสดุที่เพิ่มลูกเล่นและสีสันเช่นนี้จะอยู่ประมาณ 30 – 60 บาท ต่อ 25x25 cm.
2. รูปแบบของวัสดุ นอกจากรูปแบบแผ่นที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปแล้ว วัสดุชนิดนี้ยังมีรูปลักษณะทรงกลมเพื่อทดแทนการจัดสวนด้วยต้นไม้ตามธรรมชาติ โดยราคาของวัสดุก็จะขึ้นกับเส้นผ่าศูนย์กลางของตัววัสดุเอง โดยราคาอาจจะเริ่มต้นตั้งแต่ 120 – 750 บาทต่อลูก ทั้งยังมีหลากหลายสีสันให้เลือกกันอีกด้วย หรือจะเป็นรูปแบบจำลองสวนสำเร็จรูปที่มีทั้งใบหญ้า ไม้ประดับชนิดต่าง ๆ ด้วยวัสดุจึงทำให้มีราคาค่อนข้างสูงเริ่มต้นที่ 3,500 บาทต่อชิ้น อีกด้วย
3. ขนาดของวัสดุหญ้าเทียม โดยทั่วไปวัสดุชนิดนี้จะแบ่งประเภทของขนาดเพื่อการจัดจำหน่ายอยู่ 2 แบบ คือ แบบเป็นชิ้น และแบบม้วนขึ้นกับพื้นที่ในการปูพื้นผิวของวัสดุชนิดนี้ โดยหากมีขนาดแผ่นอยู่ที่ 25x25 cm. ราคาจะอยู่ที่ 20 – 50 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพและเกรดของวัสดุ แต่หากเป็นแบบม้วนก็จะขึ้นกับขนาดของพื้นที่และคุณภาพของตัววัสดุ ซึ่งราคาโดยทั่วไปเริ่มต้นที่ 100 – 500 บาทต่อตารางเมตร
การเลือกใช้หญ้าเทียมให้ตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งาน นอกจากการคำนึงถึงขนาดของพื้นที่แล้ว จึงต้องคำนึงถึงรูปแบบการใช้งานด้วย เป็นการงานภายในหรือภายนอกอาคาร เป็นงานปูพื้นหรืองานปูฝาผนัง ทั้งยังต้องการให้มีรูปแบบหรือลูกเล่นอย่างไร เพราะปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมีผลต่อราคาของวัสดุชนิดนี้นั่นเอง
ปัจจุบันจำนวนประชากรมีมากขึ้นทุกปี บ้านและที่อยู่อาศัยขยายจากตัวเมืองออกไปทางรอบนอกมากขึ้น ทำให้ผู้อยู่อาศัยที่นิยมซื้อบ้านที่ตั้งอยู่รอบนอก ได้บ้านหรือที่พักอาศัยที่มีพื้นที่มากขึ้น จึงทำให้รอบบริเวณบ้านสามารถทำสนามหญ้าเพื่อไว้พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดสุดสัปดาห์
แต่เนื่องจากวิถีชีวิตของคนในปัจจุบันที่นิยมทำงานนอกบ้านทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทำให้แต่ละครอบครัวไม่ค่อยมีคนดูแลและทำความสะอาดบ้าน ในวันหยุดสุดสัปดาห์สมาชิกในครอบครัวก็ต้องการการพักผ่อน ดังนั้น สนามหญ้าเทียมจึงเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น และเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากไม่ต้องตัดหญ้า ไม่ต้องรดน้ำต้นไม้ ไม่ต้องมีขั้นตอนยุ่งยากในการดูแลรักษา ไม่เหมือนหญ้าจริงที่ต้องใช้เวลาในการดูแลรักษาค่อนข้างมาก เวลาที่เหลือจากการทำงานทำให้สามารถพักผ่อนได้จริง ๆ นี่เป็นตัวอย่างความจำเป็นของคนในยุคนี้ที่หันมาติดตั้งหญ้าเทียมกันมากขึ้น
นอกจากนี้ สถานที่ต่าง ๆ เช่น โรงเรียน คอนโดมิเนียม บ้านในเมือง ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านกาแฟก็นิยมนำหญ้าสังเคราะห์มาทำสนามเด็กเล่น สนามฟุตบอล ตกแต่งภายนอก ตกแต่งภายในเพื่อเพิ่มสีสัน ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ และสบายตากับผู้คนที่ได้พบเห็นด้วย นอกจากความสวยงามและความแข็งแรงทนทานของหญ้าสังเคราะห์แล้ว หญ้าสังเคราะห์ยังไม่ต้องการการดูแลรักษามาก สถานที่ที่นำหญ้าเทียมมาใช้งานไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการจ้างคนมาตัดหญ้า หรือบำรุงรักษาหญ้าให้สวยงาม เป็นการประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายอย่างแท้จริง
สำหรับค่าใช้จ่ายในการปูหญ้าสังเคราะห์ถือว่าค่อนข้างสูงหากเทียบกับการปูหญ้าธรรมชาติ แต่หากคำนวณกับค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ค่าใช้จ่ายในการจ้างคนและค่าเสียเวลาแล้ว ในระยะยาวการติดตั้งหญ้าสังเคราะห์ถือว่าราคาไม่แพง นอกจากนี้ ด้วยวัสดุที่ทำจากพลาสติกพิเศษผสมกับสารปกป้องแสงแดด ทำให้หญ้าเทียมมีสีสันสวยงาม สีไม่ซีดจางเร็วแม้จะเผชิญกับสภาวะแสงแดดจัดทุกวัน หรือสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สีของหญ้าสังเคราะห์ก็ยังคงสดใส มีความแข็งแรงทนทานและมีอายุการใช้งานนาน เรียกได้ว่าลงทุนครั้งเดียวคุ้มค่านานถึงเกือบ 10 ปีเลยทีเดียว
หญ้าเทียมและน้ำ กับคำถามที่ว่า ไปด้วยกันได้หรือไม่?
มีความสงสัยจากผู้ที่อยากลองใช้ หญ้าเทียม ในการปูพื้นสนามหญ้าหน้าบ้าน ทำสนามฟุตบอลหรือฟุตซอลกลางแจ้ง หรือติดตั้งเพื่อตกแต่งผนัง กำแพง หรือทำฉากต่าง ๆ นั้น ถ้าโดนน้ำจะเสื่อมสภาพเร็วหรือไม่ คำตอบจะเป็นเช่นไรไปดูกัน
หญ้าเทียมผลิตมาจาก โพลีเอทิลีน ซึ่งมีความปลอดภัยสูงและมีการผสมสาร UV Stabilizer เพื่อเพิ่มความคงทนต่อแสงแดด และมีสารป้องกันสีซีดจางจากแสงยูวี (UV resistant) โดย Polyethylene (PE) นั้น จะถูกนำมาทอยึดติดกับแผ่นรอง (Backing) และมีรูระบายน้ำอยู่ด้านหลัง โดยความสูงของใบหญ้า จะขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ในงานของหญ้าเทียมชนิดนั้น ๆ ดังนั้นเมื่อมีการโดนน้ำ พลาสติกนี้จะไม่มีการเปื่อยยุ่ยเหมือนหญ้าจริง ไม่มีการกักเก็บน้ำเนื่องจากมีรูระบาย ทำให้หญ้ากลับมามีสภาพเหมือนเดิมและมีสภาวะเหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเห็นได้ว่า การใช้หญ้าเทียมนั้นมีความคงทนต่อน้ำและสภาวะอากาศดีกว่าการใช้หญ้าจริง
หญ้าเทียมมีความต้องการการดูแลไม่มากมากเหมือนการปลูกหญ้าจริง โดยส่วนมากต้องการการดูและเพียงอาทิตย์ละครั้ง เพื่อดูความสกปรก หากมีคราบเปื้อนก็ฉีดน้ำเล็กน้อยก็สามารถใช้งานต่อได้ บางส่วนอาจมีการเพิ่ม Infill และแปรงหญ้าบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ไม่มีเวลาในการดูแลรักษาหญ้ามากนัก อีกทั้งยังได้พื้นที่สีเขียว เพิ่มความร่มรื่นแก่บ้านเรือนและอาคารที่อยู่อาศัยได้ทันที
อีกจุดเด่นที่น่าสนใจของการใช้หญ้าเทียมคือ อายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 6 ปี และหากมีการเลือกหรือลงทุนกับหญ้าเทียมที่มีคุณภาพสูงแล้วนั้น อาจมีอายุการใช้งานมากถึง 10 ปีเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถติดตั้งได้รวดเร็วและมีตัวเลือกให้ใช้งานได้หลากหลายทั้ง ปูพื้น ติดผนัง หรือทำสนามกีฬา
แต่เนื่องจากหญ้าเทียมนั้นถูกผลิตมาจากใยสังเคราะห์ อาจทำให้ไม่ได้รับความรู้สึกอ่อนนุ่มหรือให้ความเย็นเหมือนหญ้าจริงมากนัก แต่หากมองถึงปัจจัยโดยรวมแล้ว การเลือกใช้หญ้าเทียมก็ดูจะเหมาะสมกับประเทศไทย ที่มีสภาวะอากาศที่ร้อนชื้น เดี๋ยวฝน เดี๋ยวแดด ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นคงสามารถตอบโจทย์คนที่กำลังกังวลเกี่ยวกับคำถามที่ว่า “หญ้าเทียมทนน้ำได้ดีแค่ไหน” ได้เป็นอย่างดี
การตัดหญ้าเทียมให้สวยงามอยู่เสมอ
แม้ว่าวัสดุหญ้าเทียมจะต้องการการดูแลรักษาที่น้อยกว่าหญ้าตามธรรมชาติ แต่ก็ควรดูแลรักษาเพื่อให้สวยงามอยู่เสมอ ซึ่งการตัดและแต่งหญ้านั้นก็ต้องเริ่มตั้งแต่การปูลงบนวัสดุที่ต้องการนั้นเอง ซึ่งควรเริ่มตั้งแต่การติดตั้งหญ้าเลยทีเดียว เพราะแม้จะทำการวัดหรือปรับพื้นที่ไว้ดีเพียงใด ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องตัดให้หญ้าเทียมพอดีกับพื้นที่และสวยงามอยู่ดี
ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดหญ้าที่ง่ายและสะดวกที่สุดก็คือคัตเตอร์คม ๆ นั่นเอง โดยขนาดของคัตเตอร์ควรใหญ่พอสมควรเพื่อให้เหมาะกับงานช่าง เพราะมีพลาสติกและยางเป็นองค์ประกอบหลักจึงส่งผลให้วัสดุชนิดนี้เหนียวและยืดหยุ่น จึงต้องอาศัยแรงในการตัดพอสมควรโดยเฉพาะกับผู้ที่ยังไม่ชำนาญ และในการตัดควรพลิกด้านหลังเพื่อกรีดมีดคัดเตอร์ลงไป เพราะจะได้ไม่ติดกับใบหญ้าด้านหน้านั่นเอง ช่วยให้การกรีดเรียบและได้รูปร่างที่ต้องการดีกว่านั่นเอง ก่อนการตัดก็ควรวัดขนาดและอาจขีดเส้นแสดงเอาไว้เพื่อให้ตัดได้พอดีนั่นเอง
นอกจากนี้หากผู้ใช้ต้องการเล็มใบหญ้าเทียมให้สวยงาม หรือเพื่อแก้ไขส่วนที่เสียหายก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยกรรไกร แต่ควรเลือกที่ขนาดพอเหมาะและมีความคมพอสมควรเพื่อให้ไม่ต้องออกมากเกินไปนั่นเอง แต่โดยมากนั้นวัสดุชนิดนี้จะมีรูปร่างของใบหญ้าและความสูงของใบหญ้าให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้อยู่แล้ว เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องคอยระวังว่าหญ้าจะยาวขึ้นและรกจนต้องทำการตัดแต่งเหมือนหญ้าตามธรรมชาตินั่นเอง
จึงจะเห็นได้ว่าการตัดวัสดุหญ้าเทียมนั่นสามารถทำการตัดแต่งด้วยตนเองได้ง่าย ด้วยอุปกรณ์ที่หาได้ใกล้ตัว เพียงแต่ต้องเลือกขนาดที่พอเหมาะเพื่อช่วยผ่อนแรงในการทำงานของผู้ใช้งานนั่นเอง นอกจากนี้เศษของหญ้าที่ตัดออกมาผู้ใช้ยังสามารถนำไปใช้ในงานตกแต่งอื่น ๆ ได้ เช่น ตัดให้เป็นวงกลมเพื่อนำไปใช้เป็นที่รองแก้ว เป็นต้น เพื่อไม่ให้ต้องเสียวัสดุที่ตัดแต่งออกมาให้เสียเปล่านั่นเอง จึงนับว่าเป็นวัสดุสำหรับการตกแต่งบ้านที่สามารถใช้งานได้ง่าย ติดตั้งได้สะดวก และมีประโยชน์ที่หลากหลายมากอีกด้วย
สิ่งที่ต้องควรระวังหากต้องการนำเอาหญ้าเทียมมาใช้ในการตกแต่งพื้นที่ต่าง ๆ
หญ้าเทียม เป็นหนึ่งในวัสดุที่ได้รับความนิยมนำมาใช้ในการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในตามสถานที่ต่าง ๆ แม้ว่าหญ้าประเภทนี้จะมีความสวยงามและความทนทานดูแลได้ง่ายกว่าหญ้าจริง แต่ก็ยังมีข้อเสียและสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอยู่มากมายที่เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะเลือกนำมาใช้ในการตกแต่งพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการทำความสะอาดหญ้าประเภทนี้จะต้องทำความสะอาดต่างจากหญ้าจริง
หากเป็นหญ้าจริงนั้นเพียงแค่ตัดแต่งและรดน้ำหญ้าก็จะสวยงามแล้ว แต่หญ้าเทียมไม่ต้องการน้ำและไม่จำเป็นต้องตัดแต่ง เพราะมีขนาดความยาวของหญ้าที่เป็นมาตรฐานมาจากโรงงานแล้ว อีกทั้งหญ้าประเภทนี้ไม่ได้เจริญเติบโตเหมือนกับหญ้าจริงการตัดแต่งจึงตัดออกไปได้เลย การทำความสะอาดเพียงแค่ปัดฝุ่นที่มาเกาะตามหญ้าเท่านั้นก็จะทำให้หญ้าสะอาดขึ้นได้แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการนำน้ำมาใช้ในการทำความสะอาดหญ้าประเภทนี้เพราะมันจะทำให้การยึดเกาะของหญ้าที่ตกแต่งเอาไว้นั้นหลุดออกได้ง่าย ๆ
ความร้อนก็เป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงในการใช้งานกับหญ้าเทียม เพราะหญ้าประเภทนี้ผลิตมาจากวัสดุที่ใช้ให้เกิดความเหมือนหญ้าจริง ดังนั้นจึงไม่ทนทานต่อความร้อนการที่จะมาก่อไฟบนหญ้าหรือการที่จะมาใช้ความร้อนใด ๆ กับหญ้าประเภทนี้จึงควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสียหายไม่เพียงแค่ส่วนที่ได้รับความร้อนเท่านั้นแต่อาจจะเสียหายเป็นวงกว้างได้ง่าย ๆ ดังนั้น หากอยากให้อายุการใช้งานและความสวยงามของหญ้าประเภทนี้คงอยู่อย่างยาวนาน ก็ต้องหลีกเลี่ยงความร้อนทุกรูปแบบกับหญ้าประเภทนี้
การตกแต่งพื้นที่ทั้งภายนอกและภายในด้วยหญ้าเทียมหากยังไม่แน่ใจว่าต้องทำการติดตั้งอย่างไร หรือยังไม่รู้ว่าจะต้องดูแลรักษาหญ้าประเภทนี้อย่างไร ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับการนำเอาหญ้าประเภทนี้มาใช้ในการตกแต่งหรืออาจจะขอรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการตกแต่งและติดตั้งหญ้าประเภทนี้ก่อน ว่าพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งนั้นเหมาะสมแค่ไหนและจะส่งผลอย่างไรในระยะยาวหากติดตั้งไปแล้ว เพื่อความสวยงามอย่างเต็มที่และเพื่อยืดอายุการใช้งานหญ้าประเภทนี้ให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
หญ้าเทียมกับข้อดีในเรื่องของการติดตั้งเองได้ ไม่ยุ่งยาก
การปูพื้นด้วยหญ้าเทียมมีประโยชน์หลายอย่าง ได้แก่ การดูแลรักษาและทำความสะอาดง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเสียเวลาในการรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ยและตัดหญ้า ให้ความสวยงามกับอาคาร บ้านเรือน ร้านค้า สามารถตกแต่งบริเวณภายในและภายนอกได้ตามที่ต้องการ หญ้าปูพื้นช่วยในเรื่องของความปลอดภัย หกล้มแล้วไม่เกิดการบาดเจ็บ เนื่องจากทำจากวัสดุที่ไม่คมและไม่บาดผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ หญ้าปูพื้นยังมีข้อดีในเรื่องของ DIY สามารถซื้อมาแล้วติดตั้งเองได้ง่าย สะดวกและไม่ยุ่งยาก อุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้งมีจำนวนไม่มากและเป็นอุปกรณ์ทั่วไปที่หาซื้อได้ง่าย มีขายตามร้านค้าทั่วไป โดยอุปกรณ์มีดังนี้ คือ กาว PU หรือกาวยาง กรรไกร มีดคัตเตอร์ ตลับเมตร แผ่นใยต่อหญ้าและแผ่นหญ้าเทียม
วิธีการปูหญ้าปูพื้นภายในที่ร่ม ภายในอาคารหรือสถานที่พักอาศัย เนื่องจากเป็นพื้นที่เรียบอยู่แล้ว สามารถคลี่ม้วนแผ่นหญ้าและแปรงใบหญ้าให้เรียบร้อย ต้นหญ้าที่ผ่านการแปรงใบหญ้าแล้ว ขนของต้นหญ้าจะตั้งขึ้น ดูสวยงามและเป็นธรรมชาติ ต่อมาให้ทำความสะอาดสถานที่ที่ต้องการปูหญ้าและวัดขนาดพื้นที่ แล้วนำหญ้ามาปูตรงบริเวณพื้นที่ที่ต้องการ หากใช้หลายแผ่นให้วางแผ่นหญ้าโดยให้ต้นหญ้าอยู่ในแนวเดียวกัน
ตัดหญ้าส่วนที่เกินหรือไม่พอดีออก โดยใช้คัตเตอร์ตัดจากทางแผ่นหลังของหญ้าปูพื้น ส่วนการต่อหญ้าปูพื้น 2 ผืนเข้าด้วยกัน ให้ใช้แผ่นใยต่อหญ้าโดยเทกาวลงบนแผ่นใยต่อหญ้าและเกลี่ยให้ทั่ว วางแผ่นหญ้า 2 ผืนทับลงไปบนแผ่นใยต่อหญ้าให้ติดกันแน่นสนิทพอดี เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับการตกแต่งพื้นเรียบในที่ร่มให้เป็นพื้นหญ้าเทียมที่มีสีสันสวยงาม
สำหรับการปูหญ้าปูพื้นที่สนามกลางแจ้งก็สามารถทำได้เองแบบเดียวกับการปูในที่ร่ม แต่ประเภทของหญ้าปูพื้นที่ใช้ตกแต่งภายนอกกับภายในจะเป็นหญ้าปูพื้นคนละประเภท เนื่องจากหญ้าปูพื้นที่ใช้ตกแต่งภายนอกจะมีการผสมสารเคลือบเพื่อป้องกันแสงแดด ทำให้สีไม่ซีดจางเร็วและหญ้าที่ใช้ปูพื้นภายนอกจะมีตัวล็อคด้านข้าง สามารถนำมาต่อกันได้ง่ายและมีรูระบายน้ำด้านล่างเพื่อป้องกันน้ำขัง และที่สำคัญก่อนปูหญ้าเทียมภายนอกต้องมีการปรับระดับพื้นที่ที่ต้องการปูให้มีความเรียบเสมอกันด้วย
ข้อแตกต่างระหว่างหญ้าเทียมกับหญ้าจริง
ในปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับวัสดุทดแทนวัสดุธรรมชาติมากมายหลายรูปแบบและ “หญ้าเทียม” ก็เป็นหนึ่งในวัสดุทดแทนหญ้าจริง ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น หลายคนกำลังลังเลว่าจะตัดสินใจเลือกใช้หญ้าเทียมแทนหญ้าจริงดีไหม แล้วหญ้าเทียมกับหญ้าจริงมีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง วันนี้จะมีคำตอบมาฝากครับ
สำหรับหญ้าเทียมนั้น ได้ถูกผลิตมาเพื่อทดแทนข้อด้อยของหญ้าจริงโดยจะขอเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างหญ้าเทียมกับหญ้าจริงดังนี้
1. ความแข็งแรงทนทาน แน่นอนว่าต้องยกให้กับหญ้าเทียม เพราะผลิตจากพลาสติกหรือวัสดุสังเคราะห์ที่มีความเหนียวและทนทานมาก เมื่อเทียบกับหญ้าจริงซึ่งเป็นต้นหญ้าธรรมชาติ คุณสมบัติข้อนี้ทำให้หญ้าเทียมเข้ามามีบทบาทและลบจุดด้อยของหญ้าจริงไปได้โดยสิ้นเชิง
2. การดูแลรักษาทำความสะอาด สำหรับหญ้าเทียมจะมีการดูแลที่ง่ายเพราะเป็นหญ้าที่สังเคราะห์ขึ้น สามารถ
ทำความสะอาดได้โดยการดูดฝุ่นหรือเช็ดถู ใช้น้ำฉีดหรือจะถอดออกมาทำความสะอาดก็ได้ ในขณะที่หญ้าจริงนั้นต้องปลูกในดิน ในพื้นที่และต้องมีการรดน้ำ ใส่ปุ๋ยเหมือนปลูกพืชทั่วไป หากไม่ดูแลจริงจัง หญ้าก็จะซีดเหลือง หมดความสดใสและตายในที่สุด
3. ราคาและค่าใช้จ่าย แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายในการปูหญ้าเทียม ในขั้นแรกย่อมจะสูงกว่าหญ้าจริง แต่หากมองในมุมของการลงทุนระยะยาวและการมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและไม่ต้องดูแลรักษา ใส่ปุ๋ย ตัดหญ้า ก็เท่ากับว่าหญ้าเทียมคุ้มค่ากับการลงทุนพอสมควร
4. ความเป็นธรรมชาติ อันว่าด้านนี้ของเทียมใด ๆ ในโลกก็คงจะไม่อาจสู้ของจริงได้อย่างแน่นอน หากท่านยังคงรักในความเป็นธรรมชาติ หลงใหลในไอดินกลิ่นหญ้า ก็คงจะเป็นสิ่งที่หญ้าเทียมไม่อาจให้ได้อย่างแน่นอนและหญ้าเทียมเป็นหญ้าที่ดูดซับและเก็บความร้อนได้มากกว่าหญ้าจริง จึงทำให้หญ้าเทียมมีอุณหภูมิสูงกว่าหญ้าจริง โดยเฉพาะในฤดูร้อน ความสดชื่นจึงมีน้อยกว่า
นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นในการเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างหญ้าจริงและหญ้าเทียม ราคาลองนำข้อมูลนี้ไปศึกษาและพิจารณาก่อนการตัดสินใจเลือกใช้ประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นหญ้าจริงหรือหญ้าเทียมครับ
เทคนิคการดูแลรักษาหญ้าเทียม
จุดดีที่เป็นข้อเด่นของการเลือกใช้หญ้าเทียมปูแทนหญ้าจริงนอกเหนือจากเรื่องของพื้นที่ในการปูที่อาจเป็นพื้นที่ที่ไม่โดนแดดหรือเป็นพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นดินแล้ว คนที่เลือกใช้หญ้าเทียมในการปูก็ด้วยเหตุผลในเรื่องของการดูแลรักษาที่ง่ายกว่าหญ้าจริงมาก ไม่ต้องคอยรดน้ำหรือใส่ปุ๋ยเพื่อบำรุงหญ้าตลอดเวลา
การดูแลรักษาหญ้าเทียมนั้นไม่ได้มีเทคนิคอะไรที่เป็นพิเศษที่แตกต่างไปจากวัสดุอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาหรือเครื่องมือในการทำความสะอาดที่เป็นพิเศษอะไร เป็นการดูแลรักษาในเรื่องของการทำความสะอาดและการใช้งานคล้ายกับวัสดุอื่น ๆ
เทคนิคในการดูแลรักษาหญ้าเทียมราคาเพื่อให้คงความสวยงามและใช้งานได้ยาวนาน มีดังนี้
• หญ้าเทียมแบบใบยาว มีข้อดีคือเหมือนหญ้าจริงมากกว่าในเรื่องของผิวสัมผัส แต่ความยาวก็ทำให้ดูแลยากกว่านิดหน่อย วิธีทำความสะอาดก็คือให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นโดยให้ดูดย้อนแนวของการเรียงตัวของหญ้าเพื่อให้สามารถดูดฝุ่นและเศษผงที่ติดตามซอกได้สะอาดกว่า
• หญ้าเทียมแบบใบสั้น ทำความสะอาดง่ายกว่าแบบใบยาว โดยให้ทำความสะอาดด้วยการใช้ไม้กวาดมาปัดกวาดฝุ่นออกโดยให้ไล่กวาดไปในทางเดียวกัน
• หญ้าเทียมที่ปูภายนอกอาคาร หญ้าเทียมราคาที่ติดตั้งนอกอาคารจะมีความสกปรกง่ายกว่าหญ้าเทียมที่ปูในอาคาร วิธีทำความสะอาดให้ใช้ไม้กวาดปัดกวาดฝุ่นออกให้สะอาดก่อน 1 รอบ หลังจากนั้นให้ใช้สายยางฉีดน้ำเพื่อล้างทำความสะอาดได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำขัง เนื่องจากแผ่นหญ้าเทียมจะมีรูสำหรับระบายน้ำอยู่ที่ด้านล่างอยู่แล้ว
• หญ้าเทียมราคาที่ปูภายในอาคาร ให้ใช้ไม้กวาดปัดกวาดฝุ่นออกให้สะอาดก่อน 1 รอบ หลังจากนั้นให้ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกตามไล่ไปตามหญ้าเทียมในจุดต่าง ๆ
เทคนิคในการเช็ดหรือล้างทำความสะอาดหญ้าเทียมนั้น ให้ใช้น้ำสะอาดอย่างเดียวก็เพียงพอ
ไม่ควรใช้ผงซักฟอกหรือสารเคมีในการทำความสะอาด ด้วยความเข้าใจว่าจะทำให้หญ้าเทียมราคาสะอาดขึ้น เพราะสารเคมีและผงซักฟอกจะมีผลทำให้สีของหญ้าเทียมที่สดใสนั้นซีดลงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
ข้อดีของหญ้าเทียมเรื่อง DIY เองได้
ทุกวันนี้หญ้าเทียมได้กลายมาเป็นวัสดุยอดฮิตที่คนหันมานิยมเลือกใช้ปูพื้นแทนหญ้าจริงกัน เนื่องด้วยการดูแลรักษาที่ต้องบอกเลยว่าง่ายกว่ามาก ๆ มีความทนทานใช้งานได้นาน ถือเป็นวัสดุที่ให้ความคุ้มค่าอีกวัสดุหนึ่งเลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นหญ้าเทียมยังเป็นวัสดุที่ซื้อหาได้ง่าย มีบริษัทและห้างร้านวางจำหน่ายกันมาก วัสดุมีความหลากหลายทั้งเรื่องขนาด เกรดของวัสดุและสีให้เลือกใช้ได้ตามความต้องการ นอกจากหญ้าเทียมจะหาซื้อง่ายแล้ว การติดตั้งหญ้าเทียมก็ยังง่าย สามารถ DIY เองได้ ยิ่งถ้าพื้นที่ที่ต้องการปูไม่กว้างใหญ่นัก การเลือกปูหญ้าเทียมด้วยตัวเองยังช่วยประหยัดค่าติดตั้งได้อีกด้วย
ถ้าพื้นที่ที่ต้องการปูหญ้าเทียมเป็นส่วนภายในอาคารหรือส่วนของสนามที่ไม่ถูกแดดและฝน ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะ DIY เองได้ พื้นผิวของพื้นที่จะปูหญ้าเทียมจะเป็นพื้นอะไรก็ได้ พื้นไม้ พื้นปูนหรือพื้นกระเบื้อง การปูภายในอาคารที่เป็นพื้นเรียบ การ DIY ก็เพียงแต่วัดขนาดพื้นที่ที่ต้องการปู หลังจากนั้นก็เลือกซื้อหญ้าเทียมที่เป็นม้วนมาปูให้ได้ตามขนาด โดยต้องเผื่อให้เหลือดีกว่าขาด ส่วนที่เหลือทั้งด้านกว้างและยาวก็ให้ใช้คัตเตอร์ตัดออก การใช้งานหญ้าเทียมภายในอาคารไม่จำเป็นต้องทากาวหรือยึดติดกับพื้นก็สามารถใช้งานได้
นอกจากนั้นการปูหญ้าเทียมลงบนพื้นที่มีความเรียบอยู่แล้ว การ DIY ก็ทำได้ง่ายเพียงแค่ปูวางหญ้าเทียมลงให้พอดีกับพื้นที่และใช้เฟอร์นิเจอร์วางทับไว้ได้ โดยที่ไม่ต้องใช้กาวหรือตะปูยึดติดก็ได้ แต่หากต้องการให้แน่นหนาจะใช้กาวหรือตะปูยึดติดก็ได้เช่นเดียวกัน
กรณีที่พื้นที่ที่ต้องการปูหญ้ากว้างหรือยาวกว่าม้วนหญ้าเทียมต้องมีการต่อ ให้ซื้อแผ่นใยต่อหญ้าเพื่อต่อหญ้า 2 ผืนเข้าด้วยกันและให้ใช้กาว pu หรือกาวยางทาแผ่นใยต่อหญ้าให้ทั่วเพื่อใช้เชื่อมหญ้าเทียมทั้งสองแผ่นเข้าด้วยกันอย่างแนบสนิท
หากพื้นที่ที่ต้องการปูหญ้าเทียมไม่เรียบ ขรุขระ ไม่เสมอกัน เราจะต้องเตรียมพื้นที่ให้เรียบก่อนที่จะปูด้วยการเทปูนหรือใช้ทรายช่วยปรับพื้นที่ให้เรียบ ถ้าเป็นพื้นดินควรใช้แผ่นพลาสติกสีดำปูทับก่อนที่จะปูหญ้าเทียมเพื่อไม่ให้หญ้าจริงมีโอกาสเจริญเติบโตขึ้นมาแทรก หลังจากนั้นก็ใช้ตะปูคอนกรีตยึดหญ้าเทียมติดลงกับพื้นดินเพื่อให้แน่นหนามากยิ่งขึ้น
ข้อแตกต่างระหว่างหญ้าเทียมกับหญ้าจริง
ลองหลับตานึกถึงบ้านที่มีบริเวณมีสนามหญ้าอยู่รอบบ้านให้ลูก ๆ วิ่งเล่นกัน นึกแล้วก็อยากจะมีบ้านในฝันแบบนั้นสักหลังบ้าง แต่ใครจะรู้ว่าบ้านที่มีสนามหญ้าวิ่งเล่นรอบบ้านนั้น มีอะไรที่ตามมามากมาย ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเรื่องที่จะต้องคอยดูแลสนามหญ้าให้สวยงาม เขียวขจี หญ้าไม่ยาวดูรก อ่านดูแล้วอาจไม่รู้สึกว่ายากอะไร แต่หากได้เป็นคนต้องลองไปดูแลสนามหญ้าให้ดูสวยงามอยู่เสมอจะรู้เลยว่ามันไม่ใช่งานที่ง่ายและสนุกเลย
หลายคนจึงเลือกใช้หญ้าเทียมแทน เพราะจะได้ไม่ต้องดูแลมาก หนึ่งคือไม่ต้องคอยตัดหญ้าให้สั้นอยู่เสมอ สองคือไม่ต้องคอยรดน้ำเพื่อให้หญ้าเขียวดูสวยงาม หากเป็นหญ้าจริงพอรดน้ำไปหญ้ายาวก็ต้องคอยตัดอีก วนเวียนไปแบบนี้อยู่ตลอดเวลา แต่บางคนก็ยอมแลกเพื่อให้บ้านมีสนามหญ้าที่สวยงาม
เรามาเปรียบเทียบกันให้เห็นข้อแตกต่างของการใช้หญ้าเทียมหรือการปลูกหญ้าจริงกันดีกว่า ว่าแบบไหนดีกว่ากันจะได้ตัดสินใจถูกว่าเราควรมีสนามหญ้าแบบไหนกันดี
• การดูแลรักษา เรื่องนี้ต้องขอพูดเป็นอันดับต้น ๆ เพราะบ้านที่มีสนามหญ้าจริงจะรู้ดีว่า สนามหญ้าจริงนั้นต้องการการดูแลรักษามาก ทั้งเรื่องรดน้ำและตัดหญ้าที่ต้องทำเป็นประจำ ลืมไปไม่ทันไร หญ้าก็ยาวขึ้นมาดูไม่สวยอีกแล้ว ต้องคอยตัดและรดน้ำบ่อย ๆ ด้วย ส่วนหญ้าเทียมนั้นใช้น้ำฉีดล้างทำความสะอาดได้ถือว่าดูแลรักษาง่ายกว่า
• ราคา แม้หญ้าจริงจะต้องดูแลรักษามากกว่า แต่หากเทียบราคาแล้วก็ถือว่าถูกกว่าเพราะเป็นการลงทุนซื้อหญ้าแค่ครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้นก็จะมีสนามหญ้าใช้ไปตลอด ในขณะที่หญ้าเทียมนั้นต้องลงทุนค่อนข้างสูงตั้งแต่ครั้งแรกเพราะมีราคาแพงและยังมีอายุการใช้งานด้วยประมาณ 6-8 ปี ไม่ใช่ว่าใช้ไปได้ตลอด
• การทนแดด หญ้าจริงชอบแดดอยู่แล้ว ยิ่งมีแดดร่วมกับการรดน้ำสม่ำเสมอจะทำให้หญ้าจริงเขียวดูสวยสด ส่วนหญ้าเทียมทำจากพลาสติก การโดนแดดเป็นเวลานาน ๆ ก็จะทำให้อายุการใช้งานของหญ้าเทียมสั้นลง เพราะพลาสติกจะเกิดการเปื่อยและยุ่ยได้เร็ว
รู้ข้อแตกต่างแบบนี้แล้ว หากกำลังตัดสินใจว่าจะปูหญ้าจริงหรือหญ้าเทียมก็ขอให้คิดพิจารณาถึงความแตกต่างเหล่านี้ให้รอบคอบเสียก่อน เพราะหากปูไปแล้วไม่ถูกใจ ดูแลไม่ไหว มารื้อออกทีหลังก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น